อาหาร ที่ไม่ควรกินหลังจากเสริมหน้าอกใหม่ๆ

หลายคนอาจจะพอเข้าใจมาแล้วว่า เราควรเลี่ยงอาหารบางประเภทหลังผ่าตัด แม้ว่าแผลจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม อาหารบางจำพวก ก็ส่งผลให้แผลหายช้า บางจำพวกอาจมีผลข้างเคียงอยู่อื่นอีก วันนี้เราจะมาแนะนำว่าอาหารแบบไหนบ้างที่คุณควรเลี่ยงหลังจากเสริมหน้าอก

 

1.อาหารจำพวกของหมักของดองทุกชนิด

ถือว่าจัดเป็นอาหารอย่างแรกที่ห้ามกินเด็ดขาด หรือควรเลี่ยงอย่างถึงที่สุด เพราะอาหารเหล่านี้มักมีสารเคมีและสารพิษต่างๆ เจือป่นอยู่มาก หากบางคนที่แพ้หรืออาการยังไม่ดีพอรับประทานเข้าไป อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายระหว่างพักฟื้นบาดแผลได้ อาหารประเภทหมักดอง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ดอง ผักดอง หรือแม้แต่น้ำปลา ก็ควรจะเลี่ยงไปก่อน สัก 2 สัปดาห์ รอให้แผลหายดีก่อน แล้วค่อยทานได้จะดีกว่า

 

 

2.สุรา เหล้า เบียร์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท

หากคุณเป็นคนที่ชอบดื่มแล้ว ขอแนะนำว่าช่วงนี้ขอให้หยุดดื่มก่อน ควรงดไปสัก 2-4 สัปดาห์ไม่ว่าจะก่อนผ่าตัดหรือหลังผ่าตัด เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้ จะทำให้ร่างกายมีการสูบฉีดเลือดที่สูง ซึ่งจะทำให้แผลหายได้ช้าลง และมีโอกาสที่จะทำให้รอยแผลบวมซ้ำขึ้น

 

 

3. อาหารทะเล

อาหารทะเลไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา ควรจะงดไปก่อนสัก 2-4 สัปดาห์ เพราะเมื่อทานไปแล้วอาจจะทำให้เกิดอาการคันที่แผลได้  และยิ่งถ้าคนที่แพ้อาหารทะเล ก็ควรจะงดไปเลย

 

 

4.ไข่

อาหารจำพวก ไข้ต้ม ไข่ดาว ไข่เจียว ยำไข่ดาว ไม่มีข้อห้ามว่าทานไม่ได้ เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น บางคนก็ทาน บางคนก็ไม่ทาน แต่ก็ยังไม่รับประกันว่าสามารถทานได้ 100% ถ้ายังไงก็อยากแนะนำว่าควรเลี่ยงดูจะดีที่สุดค่ะ

 

 

5. อาหารรสจัด

อาหารที่เผ็ดมาก หรือมีรสจัดมาก อาจจะไปกระตุ้นร่างกายให้มีการหลั่งเหงื่อและน้ำมูกออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจะไปปนเปื้อน กับเชื้อโรคต่างๆ แล้วสัมผัสกับบริเวณบาดแผลที่พึ่งผ่าตัดเสร็จ จนทำให้แผลเกิดการอักเสบได้ แม้จะมีผลไม่มากแต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงได้ในช่วงที่พักฟื้นก็จะดีมากค่ะ

 

 

6. ห้ามสูบบุหรี่

แม้จะไม่ได้เกี่ยวะไรกับการกิน แต่ก็จัดว่ามีผลข้างเคียงที่มากพอตัว สำหรับคนที่ติดบุหรี่ ควรงดสูบหรือเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่จะไปทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล และยังส่งผลให้เลือดที่มาหล่อเลี้ยงบริเวณส่วนที่ผ่าตัดนั้นลดลง มีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดเลือด ทำให้แผลหายช้า และยังเสี่ยงต่อการติดโรคอีกด้วย